รถบัสเค้าก็คล้ายๆกับรถทัวร์บ้านเรานี่แหละ พอถึง Taipei main station ก็แวะเต็มพลังกันซักหน่อย

ซาลาเปาาา จากร้านป้าคนหนึ่ง

มันก็กินได้นะ แต่กลิ่นเครื่องเทศหรือสมุนไพรอะไรซักอย่างแรงมาก จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดิน สายสีน้ำเงิน ไปลง Ximen เพื่อนำกระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรม Tomorrow Hotel 

จากนั้นไปกินอาหารกลางวันที่ร้าน Mala Yuanyang Hotpot ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก เดินมาแปบเดียวก็ถึง แนะนำให้เตรียมน้ำจิ้มมาเองจะเด็ดมาก 

น้ำจิ้มที่นี่ ที่เด็ดที่สุดน่าจะเป็น Japanese Sauce หรืออะไรซักอย่างอันนั้นจะคล้ายน้ำจิ้ม AKA เค้าให้เลือกเนื้อที่อยากกินได้แค่ 1 ถาดต่อคนเท่านั้น 

และก็มีพวกของกินต่างๆให้ตักเพิ่ม เช่น ผัก กุ้ง ปู ลูกชิ้น หอย อะไรประมาณนี้ มาดูที่ขนมดีกว่านี่สนใจมาก เค้กกก มีหลายอย่างเลยตามรูป แต่เค้กที่นี่เค้าทำหวานน้อย 

แนะนำๆ ไอติมมม!!! ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักไอติม งานดีมาก มีให้เลือกเพียบ ให้ดูรูปแล้วจะเข้าใจ 

ร้านเปิด 11.30-16.00 น. ราคา 635 TWD จองไว้ก่อนจะดีมาก เพราะเวลาใกล้มื้ออาหารคนจะเยอะมาก จอบอ ไปไม่เป็น gps เลยจ้า เพราะมันจะหายากหน่อย เป็นร้านเล็กๆ แต่มี 2 ชั้น ต่อไปนั่งจาก Ximen ไปลง Dingpu ทางออก 1 ไปวัด Longshan สำหรับคนที่อยากขอพรเรื่องความรัก วัดนี้เลยจ้า ต่อไปเราจะไปที่ตลาดซือหลิน ตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีทุกอย่างให้เธอแล้ว ทั้งรองเท้า เสื้อผ้า อาหาร ของกิน ทุก ทุก อย่าง วิธีการไปก็ง่ายมาก ออกจากสถานี MRT Longshan กลับไปที่ Taipei main station และไปต่อ MRT สายสีแดง ปลายทาง Tamsui นั่งไป 5 สถานี ลงที่ Jiantan แต่พูดตรงๆเลยว่าอาหารที่นี่ จืดมากกก ถ้าคนที่กินรสจัดก็ เอาเครื่องปรุงมานะจ๊ะ แล้วที่เราเคยบอกว่าเดินจนมึนหัว ก็ที่นี่แหละ อาจเป็นเพราะว่าเดินเยอะ บวกกับนอนน้อยด้วยมั้ง พื้นเลยโครงเครงๆ มีอีกเรื่องคือ มาไต้หวันก็ต้องกินชาไข่มุกใช่มั้ย ก็หากินในตลาดนี้อ่ะแหละ เจอป้าคนหนึ่งขาย ก็ซื้อ ด้วยอะไรก็แล้วแต่สื่อสารกับป้าแกไม่รู้เรื่อง ป้าแกไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่ก็ชี้ตามภาพถูกแล้วนะ แต่สิ่งที่ได้ คือ ชานมกับเหมือนเฉาก๊วยหนึบๆอ่ะ ไม่ใช่ไข่มุก omg mission failed เว่อร์ เท่านั้นยังไม่พอ เดินไปเดินมา มันมาแล้วพม่าบุก แบบรุนแรง อาจเป็นเพราะชานมเฉาก๊วยแก้วนั้น ก็ไปถามพนักงานร้านหนึ่ง ถามว่า Where is the restroom? สิ่งที่เค้าตอบกลับมาคือ Is that the place you can find something to eat? เราแบบเอิ่ม… restroom toilet เค้าก็แบบอ้อ อยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าซึ่งไกลมากพอสมควร เราก็เดินไปแต่พอดีเจอร้านนวดที่มีห้องน้ำ ก็ขอเค้าเข้า ป้าเค้าก็ใจดีมากให้เราเข้าห้องน้ำ ป้าใจดีๆ ช่วยชีวิตหนู! ก็หลังจากนั้นเราก็มาพบว่า ในตลาดใกล้ๆ ก็มี ทำไมเค้าไม่บอกเรา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ภาษาจีนก็สำคัญไม่แพ้ภาษาอังกฤษ จบไปหนึ่งวัน ที่เหนื่อยมากๆ กลับโรงแรมกันเถอะเด็กๆ ฝันดีนะจ๊ะ วันนี้ Dare Two Go : ท้าให้ไป… ลาไปก่อน บาย